เป็นที่รู้กันว่าสมุนไทยตามบ้านนั้นมีสรรพคุณนานาชนิด นอกจากนำไปประกอบอาหารแล้วยังสามารถเอาไปสกัดเป็นยารักษาโรคต่างๆ หรือใช้บำรุงร่างกายได้อีกด้วย มาทำเป็นสครับขัดผิวกายได้อีกด้วย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะนำมาทำได้ทุกชนิด แต่จะมีอะไรบ้าง วันนี้แอดมินเลยเอาความรู้มาฝากกัน ขมิ้นชัน + นมสด ขมิ้นมีสรรพคุณในเรื่องของการช่วยลดผดผื่นคันทำให้ผิวเรียบเนียน ลบจุดด่างดำ ทำให้รู้สึกผิวพรรณผ่อง สดใส เหมือนอย่างเวลาเราดูละครย้อนยุคจะเห็นว่าคนโบราณมักนำผงขมิ้นผสมน้ำแล้วนำมาขัดผิว โดยวิธีใช้ให้นำขมิ้นชันสดไปขูด หรือ บดจนได้เนื้อละเอียด แล้วผสมนมสดคนให้เข้ากัน แล้วนำมาขัดผิวตามจุดที่ต้องการ พอกตัวทิ้งไว้สักประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างตัวให้สะอาด มะขามเปียก + น้ำผึ้ง + นมสด มะขามเปียก 1 ก้อน มาผสมกับนมสด 1 แก้ว ขยำจนให้ได้แต่เนื้อข้นๆ จากนั้นเติมน้ำผึ้งลงไปประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน แล้วนำมาขัดตัวจนทั่วตัวหรือเฉพาะจุดที่ต้องการ จากนั้นพอกทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด สูตรนี้จะช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดออก เผยให้เห็นถึงผิวขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ และยังมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียบนผิว ทำให้สิ่งสกปรกต่างๆ หลุดลอกออกจากรูขุมขนได้อย่างอ่อนโยน ว่านนางคำ + ว่านไพล + ขมิ้นชัน…

เวลาเราไปร้านนวด หรือ ร้านสปาต่างๆ เราจะเห็นที่ร้านมีตัวเลือกการนวดแบบต่างมากมายตามความชอบส่วนบุคคล ราคาก็จะมีให้เลือกหลากหลายราคา และที่นิยมกันในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอย่างมากก็คงหนีไม่พ้นนวดแผนไทยและการนวดน้ำมัน แต่คุณทราบไหมว่าการนวดแผนไทยและการนวดน้ำมันนั้นมีแตกต่างกันอย่างไร วันนี้แอดมินจะมานำเสนอให้ฟัง…    การนวดแผนไทย การนวดแผนไทย สามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบใหญ่ๆ คือ นวดแบบเชลยศักดิ์ และ นวดแบบราชสำนัก นวดแบบเชลยศักดิ์ เป็นการนวดที่สามารถทำกันเองได้ในครอบครัว โดยการใช้ ศอก แขน ขา ส้นเท้า ฝ่าเท้า การดัดตัว เป็นต้น เพื่อเป็นการผ่อนแรงของผู้นวด นวดแบบราชสำนัก เป็นการนวดที่ใช้ในพระราชวัง ท่าต่างๆ จึงสุภาพและวิธีการนวดจะใช้เฉพาะนิ้วมือและผ่ามือเท่านั้น เพื่อให้สามารถควบคุมน้ำหนักในการนวดได้ สามารถเลือกระบุเลือกเฉพาะจุดบนร่างการที่ต้องการจะนวดได้ การนวดแบบนี้มักจะเป็นการนวดเพื่อคลายกล้ามเนื้อ ให้เลือดไหลเวียน ซึ่งจะช่วยบำบัดรักษาอาการปวดเมื่อยตามจุดต่างๆ เช่น ข้อกระดูก หัวไหล่ ขา หลัง เป็นต้น ดังนั้นถ้าใครที่มีอาการปวดเมื่อยถ้าหากเข้าร้านนวด หรือ สปา จึงขอแนะนำเป็นการนวดแบบแผนไทยจะดีกว่า การนวดน้ำมัน การนวดน้ำมันมักจะเป็นที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติซะมากกว่า เนื่องจากต้องถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมดระหว่างการนวด จึงอาจจะเป็นเรื่องเขอะเขินในหมู่ลูกค้าคนไทย แต่การนวดแบบน้ำมันนี้จะช่วยในเรื่องของการผ่อนคลายความเครียด และอารมณ์ได้เป็นอย่างดี ให้ความรู้สึกสบายตัว…

ดอกไม้นานาชนิดของไทยเรียกได้ว่าขึ้นชื่อในเรื่องของมีกลิ่นหอมและความสวยงามอยู่แล้ว จึงมีหลายสปาในภูเก็ตนิยมที่จะนำจุดเด่นนั้นมาใช้ในการตกแต่งร้านและช่วยในเรื่องของการบำบัดความเครียด เพื่อให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายได้อีกด้วย   1. ดอกมะลิ ดอกไม้หอมที่คู่คนไทยมาช้านาน เรียกได้ว่าไปบ้านสวนที่ไหนก็มักจะต้องมีต้นดอกมะลินี้ข้างบ้านเสมอ เพราะสามารถนำไปใช้ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะร้อยพวงมาลัยไหว้พระ ให้ความหอมสดชื่นและความสวยงาม ถ้านำไปแปรรูปเป็นชาก็จะช่วยในเรื่องลดไข้ รักษาหวัด  แก้อาการอ่อนเพลีย บำรุงหัวใจ และ กลิ่นหอมของมะลิจะช่วยลดความตึงเครียด อีกทั้งในไทยดอกมะลิยังถือเป็นสัญลักษณ์วันแม่ที่สื่อแทนความรักอันบริสุทธิ์ของแม่ที่มีต่อลูกที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย     2. ดอกกุหลาบ นอกจากขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงาม กลิ่นหอมของดอกกุหลาบยังสามารถช่วยผ่อนคลายทำลายความวิตกกังวล หรือความเครียดได้เป็นอย่างดี สามารถนำกลีบกุหลาบไปผสมกับน้ำอุ่นในอ่างแล้วลงไปแช่แบบที่เห็นตามสปา ก็สามารถช่วยสร้างความผ่อนคลายได้อย่างสมดุลเลยทีเดียว ดอกตูมจะมีความหอมกว่าดอกบานเพราะมีน้ำมันหอมระเหยมากกว่า ถ้าทำออกมาในรูปแบบชาสำหรับดื่มจะมีสรรพคุณช่วยในการฆ่าเชื้อ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด แก้อาการอ่อนเพลีย บำรุงหัวใจ เป็นต้น     3. ดอกพุด ดอกพุดมีหลายชนิด ลักษณะกลิ่นจะหอมเย็นๆ กลีบดอกมีสีขาว ให้ความรู้สึกสง่างาม หากอยากให้ความหอมของดอกพุดซ้อนมีกลิ่นอบอวล ให้เลือกตัดเฉพาะฐานดอกแล้วนำไปลอยในอ่างแก้วจะสามารถช่วยให้ความหอมได้มากยิ่งขึ้น     4. ดอกกล้วยไม้ ด้วยความที่กล้วยไม้เป็นไม้ดอกที่ขึ้นชื่อเรื่องต้องการการดูแลและเอาใจใส่เพื่อให้ออกดอก ดอกไม้ชนิดนี้จึงถือเป็นตัวแทนของความหรูหรา ความสวยงามและความหวัง อีกทั้งบางชนิดก็มีกลิ่นหอม จึงมักเห็นหลายสปาจะนำมาใส่แจกันประดับแต่งหน้าร้าน เพราะในทางฮวงจุ้ยยังมีความเชื่อว่า ดอกกล้วยไม้สามารถช่วยในเรื่องการสร้างพลังบวกให้กับสถานที่นั้นๆได้อีกด้วย